Read this article in English
“อาหารเป็นหนึ่งสิ่งที่เราสามารถทำได้เอง และส่งความสุขให้ผู้อื่นผ่านอาหารได้ การเป็นเชฟไม่ได้แค่ทำอาหารอร่อยในคนทาน แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงแนวคิดเปลี่ยนแปลงสังคมได้” เชฟโบ ดวงพร ทรงวิศวะ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง The Food Trust กล่าว
กับความเชื่อว่าอาหารมีเรื่องราวมากกว่าแค่ฝีมือและรสชาติ หากยังรวมถึงวัตถุดิบ เกษตรกร ไปจนถึงสิ่งแวดล้อม เชฟโบและเชฟ ดีแลน โจนส์ (Dylan Jones) คู่รักเจ้าของร้านอาหาร โบ.ลาน ร้านอาหารไทยแบบไฟน์ไดน์นิ่งย่านสุขุมวิทย์ ตัดสินใจเปิดร้านอาหารที่เชียงใหม่ โดยร่วมมือกับ เชฟแอนดี้ ริคเกอร์ (Andy Ricker) ผู้ที่เคยเปิดร้านอาหารป๊อกป๊อก ที่เสิร์ฟอาหารไทยในอเมริกา และเชฟเปาโล วิตาเลตติ (Paolo Vitaletti) เจ้าของร้านอาหารอิตาลี Peppina และ Appia ที่กรุงเทพฯ ด้วยเหตุผลที่ว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่อุดมไปวัตถุดิบออร์แกนิกที่ปลูกโดยเกษตรกรท้องถิ่น
The Food Trust ก่อร่างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ยึดหลักความยั่งยืน สุขภาพของผู้ทานและผู้ปลูกและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อาคารเก่าริมถนนราชวงศ์ จึงถูกแปลงโฉมให้เป็นพื้นที่ชุมชนอาหารที่ผสมรวมฝีมือและวัฒนธรรมของทั้ง 3 เชฟมาไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งภายในประกอบด้วยร้านอาหาร Peppina Verde ที่เสิร์ฟเมนูอิตาเลียน จากฝีมือเชฟเปาโล และร้าน Err Urban Rustic Thai กับเมนูอาหารไทยที่ทานได้ง่ายๆ Peppina Verde และ Err Urban Rustic Thai จึงเป็นการเจอกันครี่งทางระหว่างไทยกับอิตาลี ผสมผสานบนพื้นฐานของความเป็นล้านนา ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์จากฟาร์มในพื้นที่ท้องถิ่น เช่น แม่ทา สะเมิง ขุนยวม
พิซซ่าหน้าข้าวซอยเนื้อ เมนูที่เป็นการพบกันระหว่างสองวัฒนธรรม ที่เลือกเอารสชาติอาหารจานท้องถิ่นอย่างข้าวซอยมาเสิร์ฟในรูปแบบของพิซซ่า วัตถุดิบหลักอย่างผักกาดดอง หอมแดง ซอสข้าวซอย และชีส เข้ากันได้ดีกับแป้งพิซซ่าอบ เป็นอีกรสชาติแปลกใหม่ที่อยากให้ลอง
Proscuitto หรือพิซซ่าหน้าพาร์ม่าแฮม เป็นอีกรสชาติคลาสสิคจาก Peppina ที่เชฟเปาโลภูมิใจนำเสนอ กับความลงตัวของพาม่าแฮม มะเขือเทศเชอร์รี่ มอสซาเรลล่า พาเมซานชีส และผักร็อกเก็ต ที่ผสานรสชาติกันอย่างกลมกล่อม กับความพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการทำแป้ง การเลือกใช้วัตถุดิบ ไปจนถึงการอบพิซซ่า พิซซ่าแห่ง Peppina ของเชฟเปาโลจึงครองอันดับ 1 จากการร่วมโหวตในประเทศไทย อันดับ 5 ของเอเชียแปซิฟิก และอันดับที่ 43 ของโลก
Carpaccio alla Lanna ลาบคาร์ปาชโช่เนื้อสไตล์ลานนา จานไฮไลท์ที่นำเนื้อเทนเดอร์ลอยสไลด์บาง มาผสมผสานกับเครื่องลาบสมุนไพรแบบฉบับคนเมือง ที่มีทั้งหอมแดง ต้นหอม ใบมะกรูด ใบฝรั่ง ใบมิ้นต์ รสชาติถึงเครื่อง เพิ่มความฮอตได้ด้วยวอดก้าหนึ่งช็อตที่เสิร์ฟมาเคียงคู่
หมูโคจิบูตะหมักข้าวหมาก เสิร์ฟมาในรูปแบบหมูปิ้งเสียบไม้ หมูเนื้อนุ่มได้รสชาติความหอมของข้าวหมากที่แทรกซึมในเนื้อหมู
Watermelon Seeds เม็ดแตงโมอบใบมะกรูด ยำเม็ดแตงโมที่ใส่ ขิง ใบมะกรูด ต้นหอม ปรุงด้วยเกลือ พริก มะนาว น้ำตาล ที่ล้วนเป็นส่วนผสมอินทรีย์ รสชาติเค็มนำและเปรี้ยวตาม
Neam & Clam พาสต้าญ็อคเก็ตติ ซาร์ดิ (Gnocchetti Sardi) ที่มีรูปร่างคล้ายกับหอย อร่อยพอดีคำ นำมาผัดกับแหนมและหอยลาย อร่อยจัดจ้านครบรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดในหนึ่งจาน
มีทบอล ที่นำเนื้อและหมูบดมาผสมผสานแล้วทำการปรุงรส ทานเคล้าซอสมะเขือเทศเข้มข้น และขนมปังกระเทียม
สลัดบีทรูท จานสดชื่นเฮลตี้ ที่รวมความสดใหม่ของบีทรูท ถั่วชิกพี ผักร็อกเก็ต และมะเขือเทศเชอร์รี่ เข้มข้นหวานมันด้วยน้ำสลัดโยเกิร์ต
แม้จะเป็นร้านน้องใหม่ที่เปิดได้ไม่นาน The Food Trust ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่ตั้งมั่นอยู่บนปรัชญาแห่งความยั่งยืน และยังคงเดินหน้าด้วยความตั้งใจอยากส่งต่ออาหารดีๆให้แก่ผู้ที่แวะเวียนเข้ามาไม่เปลี่ยนแปลง
The Food Trust
เปิดทุกวัน: 11.00 – 21.00 น.
สำรองที่นั่งผ่าน LINE Official: ‘@thefoodtrust’
GPS: https://goo.gl/maps/ZJtMasqe8FUbSdoJ8